เมื่อ 6 เดือนก่อน (15 ตุลาคม 20) เกิดประเด็นเดือดปะทุ เว็บไซต์รณรงค์ลงชื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลงชื่อดังอย่าง Change.org ถูกกระทรวงดีอีเอสสั่งแบนในประเทศไทย หลังเกิดแคมเปญเดือดไฟลุกขั้นกว่ากับการล่ารายชื่อเพื่อขอเยอรมนีให้ประกาศให้คนที่คุณก็รู้ว่าใครกลายเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาทางการทูต อย่างไรก็ดีวันนี้ Change.org กลับมาแบบฆ่าไม่ตาย พร้อมระบุว่าได้สู้ตามกระบวนการอย่างสุดแรง จนที่สุดศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการปิดกั้นเว็บไซต์
นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไป 6 เดือน เสียงเรียกร้องทางการเมืองโดยเยาวชนคนรุ่นใหม่โหมกระหน่ำ หนึ่งในนั้นมีความปรารถนาให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และคนกลุ่มหนึ่งใช้ change.org เป็นช่องทางขับเคลื่อน มีการล่ารายชื่อเพื่อขอให้เยอรมนีประกาศให้ในหลวงรัชกาลที่ 10 กลายเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาทางการทูต ทั้งนี้เพื่อให้พระองค์กลับมาประทับ ณ บ้านเกิดแทนที่จะใช้เวลาอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ของกิจวัตร
อย่างไรก็ดี แคมเปญดังกล่าวมีเวลาชีวิตอันสั้น เพราะไม่นานนักทั้งเว็บไซต์ change.org ก็ถูกปิดกั้นโดยอาศัยคำสั่งศาลซึ่งร้องขอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ปรากฏข้อความ “เนื้อหานี้ถูกระงับ เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหรือเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม” ไม่ระบุเหตุผลชัดเจน แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะแคมเปญเรียกร้องดังเกริ่นไปก่อนหน้า
จดหมายน้อยถึงพี่น้อง Change.org ชาวไทยChange.org หายไปไหน . . .? .♣ เหตุเกิดในวันนั้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563…
โพสต์โดย Change.org เมื่อ วันอังคารที่ 20 เมษายน 2021
change.org ได้ต่อสู้ทางกฎหมายอย่างหนักหน่วงเพื่อขอคืนพื้นที่ของคน “ตัวเล็ก ธรรมดา เสียงเบา” ที่หวังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สุดท้ายศาลก็ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการปิดกั้น change.org เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญไทยในที่สุด อย่างไรก็ตาม เราลองตรวจสอบแคมเปญดังกล่าวพบว่าปัจจุบันยังอยู่บนสารบบ change.org แต่ “ไม่สามารถเข้าถึงได้จากประเทศไทย” ด้วยวิธีการปกติ