Facebook กำลังวางแผนที่จะนำโฆษณาไปแทรกลงในเกมบน Oculus Quest และแอปพลิเคชันอื่น ๆ ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะแสดงโฆษณาอิงจากข้อมูลบนโปรไฟล์ Facebook ของผู้ใช้
เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง Oculus บริษัทลูกของ Facebook ได้ประกาศว่ากำลังทดลองนำโฆษณาใส่ลงไปในแอปมือถือ Oculus เพื่อเพิ่มช่องทางการนำเสนอผลงานของผู้พัฒนาแอป VR และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่สุด Facebook ก็เคาะแผนการแทรกโฆษณาลงแพลตฟอร์ม VR ไปอีกขั้นโดยการเอามันไปใส่ในเกม VR แล้วให้มันเด้งอัดใส่ผู้เล่นตอนกำลังเล่นอยู่ไปซะเลย ซึ่งเกม VR แรกที่ถูกล็อคให้มาเป็นหนูทดลองแล้วคือ Blaston เกมยิงจากค่าย Resolution Games อย่างไรก็ตาม Facebook ได้เพิ่มฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับโฆษณาได้ระดับหนึ่ง เช่น เซฟลิงก์โฆษณาไว้ดูทีหลัง ซ่อนโฆษณา และรีพอร์ตโฆษณา เป็นต้น
ในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะถูกดึงมาใช้นั้น ส่วนใหญ่จะเก็บมาจากกิจกรรมของที่ผู้ใช้แต่ละคนกระทำบนแพลตฟอร์ม Oculus ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับที่ปกติ Facebook ทำ เช่นแอปพลิเคชันที่คุณกดดูหรือติดตั้ง โฆษณาที่คุณคลิกดู ทั้งนี้ Facebook ยืนกรานว่าพวกเขาจะไม่แอบใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อความแชท, เพศ, น้ำหนัก, ส่วนสูง ที่คุณป้อนลงบน Oculus Move รวมถึงเสียงพูดและท่าทางการขยับด้วย อย่างไรก็ตามพิจารณาจากนโยบายโฆษณาของเฟซบุ๊กเองแล้วถ้าคุณใส่ข้อมูลเพศ, น้ำหนัก, ส่วนสูงอะไรลงในบัญชี Facebook ที่ลิงก์กับ Oculus ละก็ ข้อมูลพวกนั้นก็จะถูกนำมาใช้นะ
ทั้งนี้ ทาง Facebook แถลงว่าสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ยั่งยืน โดยการยิงโฆษณาแบบนี้จะเป็นการสนับสนุนรายได้ให้กับผู้พัฒนาเกม โดยที่แน่นอนว่า Facebook ได้ส่วนแบ่งนะ
เรื่องน่ารู้ สื่อเกมต่างประเทศบางส่วนสันนิษฐานว่าเหตุผลที่ Facebook ทำการยกเลิกบัญชี Oculus และหันมาให้ผู้ใช้เชื่อมบัญชี Facebook ของตนเองกับ Oculus ก็เพื่อสนับสนุนแผนยิงโฆษณาและการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ยั่งยืนนี้นั่นเอง