วินาทีนี้คงไม่มีเพจเกมเพจไหนจะร้อนแรงไปกว่า “เกมเมอร์อมตีน” ด้วยแนวทางเพจที่ยียวนกวนประสาท เคาะแคะแกะเกาทุกกระแสสังคม เอามาล้อเลียนบดขยี้ด้วยมุกเกี่ยวกับวิดีโอเกมจนเป็นที่พูดถึงอย่างมาก ความเร็วในการเกาะกระแสของเขาประหนึ่งสมองเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ร่างกายเป็นคอมพิวเตอร์สเปคดีมีโฟโต้ช้อปไว้พร้อมแต่งภาพเขียนมุกลงเพจได้ตลอดเวลา
มันคือคำถามที่วิ่งวุ่นรบกวนความสงบสุขของสมอง ความคิดลอยวนเวียนเหมือนแมลงหวี่โรคตาแดงกำลังรุมเร้าความขี้สงสัยยังไงอย่างนั้นว่าเขาคือใคร “ทำไมต้องชื่อเกมเมอร์อมตีน” ฉะนั้นจึงอยากลองวิเคราะห์ดู
ข้อสันนิษฐานที่ 1 เพราะขยี้ค่ายเกมมาก
จากที่ติดตามเกมเมอร์อมตีนมาแสนนานก็ได้เห็นมุกล้อเลียนค่ายเกมต่าง ๆ นานา จน “นัท” เจ้าของเพจเคยกล่าวกับผู้เขียนในโอกาสพบกันช่วงงานสื่อว่า “เคยมีพี่ที่รู้จักทำงานในค่ายเกมติดต่อมาว่าให้ (ล้อเลียน) เบา ๆ หน่อย” มันทำให้ผู้เขียนทึกทักไปเองว่าถ้าเกมเมอร์อมตีนยังคงยียวนกวนประสาทแบบนี้ต่อไป ค่ายเกมอาจบุกไปเสิร์ฟบาทาจนพลาดพลั้งเผลอแหย่เท้าเข้าปากจนเขาต้องอมตีนเข้าจริง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อด้วยประการฉะนี้
ข้อสันนิษฐานที่ 2 เพราะเล่นมุกล้อการเมืองบ่อยครั้ง
ไม่เพียงแต่ล้อเลียนวงการเกม แต่หนุ่มเลือดเหลืองแดง คณะเศรษฐศาสตร์ ผู้ก่อตั้งเพจครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลา(ตรงกับวันมหาวิปโยค) คนนี้ยังได้จิตวิญญาณในการล้อการเมืองของชาวธรรมศาสตร์มาแบบเต็ม ๆ เป็นบทพิสูจน์ว่าความเท่าเทียมในไทยมีอยู่จริง(เหรอ) เพราะไม่ว่าจะระดับกำนัน ทักษิณ ลุงป้อม ลุงตู่ ล้วนผ่านการบดขยี้โดยชายผู้นี้มาทั้งสิ้น แต่ละมุกนี้มันช่างสุ่มเสี่ยงที่จะโดนเหล่าทหารคนดีเรียกตัวไปปรับทัศนคติเหลือเกิน เขาอาจจะต้องอม”ตีน” เพราะโดนตื้บเหมือนข้อสันนิษฐานที่ 1 ก็เป็นได้ แต่ข้อสันนิษฐานนี้มีน้ำหนักน่าเชื่อน้อยเพราะปัจจุบันเพจเกมเมอร์อมตีนลดระดับความสุ่มเสี่ยงลงบ้างแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว สงสัยต้องไปหาหมอ และหมอที่จะรักษาโรคขี้สงสัยนี้ได้คงเป็นใครอื่นไกลไม่ได้นอกจากแอดมิน “เกมเมอร์อมตีน” ใช่แล้วล่ะ! มันต้องมีบทสัมภาษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ สักหน่อย ผู้เขียนจึงติดต่อคุณนัทเจ้าของเพจไปและยิงคำถาม 2-3 ประโยคใส่เขาทันที
ทำไมต้องชื่อเกมเมอร์อมตีน
“ข้อนี้เคยมีคนทักมาถามกันเยอะ รวมทั้งเข้าไปสัมภาษณ์กับสื่อเจ้าอื่นอย่าง GamingDose พวกเขาก็ถามข้อนี้มาเหมือนกัน จุดเริ่มต้นคืออยากทำเพจแบบ “สัตว์โลกอมตีน” แต่เป็นการเอาเกมมาล้อแทนที่จะเป็นชื่อสัตว์ในช่วงนั้น ก็เลยเกิดชื่อนี้ขึ้นมา”
ทำไมตามกระแสไวขนาดนั้น
“น่าจะเป็นเพราะเล่นโซเชียลบ่อยมาก ๆ ด้วยละครับ แถมใช้ทั้ง Facebook และ Twitter เลยจับเทรนด์ได้ง่าย และแนวทางของเพจก็ไม่ได้เน้นการตัดต่อรูปที่ยาก สามารถทำรูป ทำมุกได้ในมือถือเลย แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เราช้า หรือเลือกที่จะไม่ตามกระแสบางอย่าง เพราะมันดูละเอียดอ่อนไปนิดนึง หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าเราจะไปโยงกับเกมอะไรดี ก็ต้องมีเวลาให้คิดตกตะกอนมุกสักหน่อย”
เคยโดนตีน เอ้ย โดนดราม่าบ้างไหม บ่อยแค่ไหน จัดการยังไง
“เรื่องที่ผมจะตอบ คาดว่ายังไม่ได้เล่าที่ไหน และต้องขออภัยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ผมอยากเล่าจริง ๆ บ่อยครับ อย่างปีที่แล้วก็ล่อไปสัก 3-4 ครั้ง และมันก็เป็นเพราะตัวผมเองแหละที่เล่นมุกแล้วไปกระทบกับคนบางกลุ่ม อันนี้จะขอยกตัวอย่างบางเหตุการณ์ ถ้าใครตามเพจคาดว่าน่าจะจำกันได้ อย่างมุกล้อ Telltale ปิดตัว ก็เขียนมุกในทำนองที่ว่า “พวกคนดู YouTube แหละผิด” แล้วก็โดนสวดยับ นั่นก็เพราะเราเองไม่ได้ศึกษาข่าวมาอย่างดีพอ หรืออย่างล่าสุดก็ปลายปีที่แล้วพอดี ที่ผมไปถ่ายรูปคอสเพลย์น้อง Peni Parker และมีคนแต่ง Spider-Man อื่น ๆ ล้อมรอบ เราก็ไม่ได้เช็คภาพให้ดีก่อนจนน้องเค้ากับเพื่อน ๆ ของเค้าออกมาว่าเพจว่าชี้นำให้ลูกเพจเม้นไปในทางเพศ ก็ต้องขอโทษกันไป (หวังว่าน้องเค้าจะมาเห็นนะ บอกได้เลยว่านอกจากจะจบดราม่านี้ไป ผมยังได้เลเยอร์ดี ๆ ให้ตามอีกหนึ่งคน จะคอยติดตามต่อไปนะครับ) และมีช่วงนึงเหมือนกันที่ทางเพจเราไปเล่น 112 (มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา) มากไปหน่อย จนแอดมินเพจสัตว์โลกอมตีนตัวจริงทักเฟสมาว่า “ให้เลิกนะ” เพราะมันจะทำเขาเสียหาย มีหลายคนเข้าใจว่าเพจเกมเมอร์อมตีนกับสัตว์โลกอมตีนเป็นเครือเดียวกัน (ตามจริงไม่ใช่) ซึ่งผมก็เข้าใจดีและตัดสินใจว่าจะเลิกเลย รวมทั้งเขาก็เตือนว่าการเมืองให้เพลา ๆ ลงหน่อย แต่ยังไงผมก็พยายามไม่ให้มันดูรุนแรงเกินไป เพราะยังไงการเมืองมันก็คือหนึ่งในกระแสสังคมที่สำคัญ”
“ทีนี้ก็จะเล่าว่าจัดการกับดราม่ายังไง ผมก็ “ขอโทษ” กับลูกเพจตรง ๆ เลย แต่ก็จะมีปัญหาเช่นกันว่า ถ้าพลาดบ่อยก็ต้องขอโทษบ่อยแล้วมันจะไปเหลืออะไรล่ะ ผมก็ต้องคอยควบคุมตัวเองให้ดีเช่นกันหลังจากนี้ จะได้แสดงถึงความจริงใจว่าเราปรับปรุงตัวละนะ และการออกมาขอโทษตรง ๆ ส่วนตัวคิดว่าผมจะรู้สึกดีกว่าปล่อยทิ้งให้เรื่องเงียบไปเฉย ๆ สุดท้ายก็จะมีคนจำสิ่งที่เราทำผิดแต่เราเพิกเฉยดีอยู่ดี”
บอกรักลูกเพจตัวเองหน่อย
“จะบอกอะไรดี.. เอาเป็นว่า ขอบคุณลูกเพจทุกคนที่คอยติดตาม ให้กำลังใจ และสนับสนุนจนเพจมาถึงช่วง 270,000 Likes ในวันนี้ และเพจจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ จะคอยเสริฟมุกคุณภาพ(?) ให้ได้ทุกวัน และสุดท้าย รักลูกเพจทุกคนครับบบบบ”
หมายเหตุ: เผยแพร่บทสัมภาษณ์ครั้งแรก 15/1/2019 ปรับปรุงเนื้อหาเพื่อเผยแพร่ใหม่วันที่ 02/02/2021