คุณ Tetsuya Nomura ผู้กำกับ Final Fantasy VII Remake อีกหนึ่งบุคลากรคนสำคัญของ Square Enix ที่เคยฝากผลงานไว้มากมายตั้งแต่ Final Fantasy IV ยัน Kingdom Heart III (แกมีบทบาทมากมายในการพัฒนา Final Fantasy VII ภาคต้นฉบับด้วยเหมือนกัน สมัยนั้นแกทั้งออกแบบตัวละคร, มอนสเตอร์, ร่วมคิดบท และยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้กำกับงานภาพฉากต่อสู้อีก) เคยกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 ว่า Remake พาร์ทต่อไปของ FFVII อยู่ระหว่างพัฒนามาสักพักแล้ว โดยมีใจความว่า
เราได้เริ่มลงมือทำพาร์ทต่อไปแล้วเช่นกัน ผมมั่นใจเลยว่าประสบการณ์จากการเล่นเกมไตเติ้ลนี้จะทำให้ความคาดหวังของคุณสูงขึ้นกว่าเดิม เฉกเช่นเดียวกับขอบเขตโลกในเกม FFVII ที่ไม่หยุดอยู่แค่ Midgar แต่แผ่ขยายไปยิ่งกว่านั้น
นอกจากนี้ หากอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ระหว่างคุณ Yoshinori Kitase (ผู้กำกับและผู้เขียนบทเกม FFVII ภาคต้นฉบับ ซึ่งปัจจุบันได้มาดำรงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของ FFVII Remake) กับสื่อ Dualshocker คุณ Yoshinori เคยกล่าวไว้ว่า
เนื้อเรื่อง ณ ตอนนี้ยังห่างไกลจากคำว่าตอนจบมาก ความสำเร็จของตัวเกมพาร์ทแรกได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เกมนี้มีศักยภาพอีกมายมาย และเรายังแอบซ่อนคำใบ้เกี่ยวกับพาร์ทต่อไปไว้เพียบเลยด้วยครับ
ผมตั้งตารอที่จะได้เห็นแฟน ๆ ออกมาตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพาร์ทต่อไปบนโซเชี่ยลมีเดียอยู่นะครับ และพวกเราจะยังคอยอยู่เคียงข้างแฟน ๆ ทั้งหลายอยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้สามารถพัฒนาโปรเจกต์นี้ไปข้างหน้าพร้อมกับแฟน ๆ ทุกคนได้ครับ
จากข้อความข้างต้นทำให้เราอนุมานได้ว่าพาร์ท 2 คงจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาและความเข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้วมีความกังวลจากแฟน ๆ ว่าการที่ทีมพัฒนาเลือกหั่นแบ่งเกม FFVII Remake ออกเป็นพาร์ท ๆ แบบนี้มันจะทำให้ประสบการณ์ในการเล่นสั้นมาก ๆ แทนรึเปล่า ซึ่งคุณ Nomura ออกมาชี้แจงเพื่อคลายกังวลว่า “เราไม่ค่อยมีโอกาสที่จะอภิปรายความตั้งใจจริงของเราเท่าไหร่ แต่ประเด็นเรื่องขนาดตัวเกมที่หลาย ๆ คนได้ถามมานั้น ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องเป็นกังวลเลย แค่เนื้อหาในส่วน Midgar อย่างเดียว ความหนาแน่นและปริมาณของมันก็มหาศาลจนผมต้องคอยไปชี้แนะทีมงานตลอด” ประกอบกับการที่เกมพาร์ทแรกมีความยาวถึง 40 ชั่วโมง หากทีมงานยังคงรักษามาตรฐานนี้ต่อไปตามที่เคยสัญญาไว้กับทางสื่อต่าง ๆ ไว้ เราก็คงไม่ต้องกังวลว่าพาร์ทต่อไปความยาวเกมจะสั้นเกินไปหรือจะต้องรอถึง 5 ปีจึงจะได้เล่นกันหรอกครับ
นอกจากที่กล่าวไปแล้ว ทางผู้เขียนบทมือฉมังอย่างคุณ Kazushige Nojima ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้เขียนบทและเนื้อเรื่องของ FFVII Remake (แกมีผลงานมากมายอีกแล้วเช่นกัน อาทิ Kingdom Heart III, Final Fantasy XV, Final Fantasy VII ต้นฉบับ และ VIII ด้วย คือโปรเจกต์รีเมคนี้มีแต่ตัวเบ้ง ๆ ทั้งนั้นอะ) ก็ได้ออกมาบอกว่าเขารู้สึกทั้งกังวลและตื่นเต้นต่อการเปลี่ยนโฉมของเกมคลาสสิคในครั้งนี้
ตัวเกมภาคต้นฉบับนั้นใช้โมเดลตัวละครและรูปแบบงานศิลป์ที่ดูการ์ตูนและแข็งกระด้าง องค์ประกอบเล็ก ๆ ที่ขาดไปจึงถูกเติมเต็มด้วยจินตนาการของผู้เล่นแทน ดังนั้นต่อให้ในครั้งนี้ผู้เล่นได้เห็นฉากเดิมจากเกมภาคต้นฉบับในภาครีเมคก็ตาม การรับรู้และตีความสารของพวกเขาก็จะไม่เหมือนกับตอนที่พวกเขาเล่นเกมภาคต้นฉบับครับ
แต่ใน Final Fantasy VII Remake เนี่ย มันจะมีจุดที่ผู้เล่นสามารถใช้จินตนาการเสริมเข้าไปได้น้อยลง ข้อเท็จจริงนี้อาจทำให้ความรู้สึกที่มีต่อเนื้อเรื่องเกมเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลได้ คนที่เคยเล่นเกมภาคต้นฉบับมาอาจจะปรับตัวไม่ถูกไปเลยก็เป็นได้ นี่คือสิ่งที่ผมกำลังกลัวอยู่ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าระหว่างที่เล่นเกมภาครีเมคนี้ตัวเกมจะทำให้เราเข้าถึงและผูกพันกับตัวละคร Cloud ได้มากขึ้นแน่นอน