รีวิว Machenike K7 [Black Switch] + M7 Wireless Mouse

ยอมรับว่าผู้เขียนไม่เคยรู้จักแบรนด์ Machenike อีกทั้งยังไม่เคยจรดปลายนิ้วจิ้มรีวิวเกมมิ่งเกียร์มาก่อนเลยสักครั้ง ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่แบรนด์ดังกล่าวไว้ใจให้เราเจิมโปรเจกต์ใหม่โดยการส่งเจ้า Mechanical Keyboard รุ่น K7 RGB [Black Switch] พร้อม M7 Wireless Mouse มาให้เราติชม ความรู้สึกตรึงใจหลังใช้ได้ราวสัปดาห์คือคีย์บอร์ดกดมันมือมาก อะไรจะกดสนุกนุ่มนิ่มนิ้วกำลังดีขนาดนี้ กดแล้วอยากกดอีก ส่วนเมาส์แรกเริ่มแอบอคติเล็กน้อยว่าไร้สายมันต้องไม่เสถียรแน่ ๆ แต่ที่ไหนได้ลองเอา M7 มาทั้งเสียบสายและ Wireless สารภาพว่าแยกไม่ออกว่ามันมีความหน่วงสัญญาณ (Delay) กว่ากันบ้างไหมเนี่ย!

Machenike K7 [Black Switch]

นอกจากความมันมือแล้วคีย์บอร์ดรุ่นนี้มีอะไรล้ำ ๆ อีกเยอะในราคาแค่พันนิด ๆ คร่าว ๆ คือมันเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์มากทั้ง Windows/Android/iOS และ MacOS จะเสียบสายก็ได้ (USB-C) ใช้ Bluetooth ก็ดี แบตอึดแบตทนใช้ได้ต่อเนื่องถึง 60 ชั่วโมง แต่ถึงกระนั้นแม้มันจะพกพาเจ้า K7 ไปนั่งจิ้มเก๋ ๆ กับ iPad ณ ร้านกาแฟครึ่งคนครึ่งปลาได้แต่ก็คงไม่สบายกระเป๋านักเพราะมันหนัก! ด้วยธรรมชาติของคีย์บอร์ด Mechanical ที่มักมีวัสดุคงทนแข็งแรงกว่าคีย์บอร์ดยางทั่วไปผลที่ตามมาคือน้ำหนัก แม้รุ่นนี้จะเคลมว่าเบาแค่ 730 กรัมก็เถอะแต่ผู้เขียนก็ยังรู้สึกว่ามันเหมาะใช้งานอยู่กับที่มากกว่า

Machenike K7 3

รุ่นที่ผู้เขียนได้มารีวิวคือ K7 RGB [Black Switch] อย่างไรก็ดี K7 ยังมี Switch อีกหลายแบบให้เลือกซื้อคือ Black, Blue, Brown และ Red ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกัน ความหน่วงในการลงน้ำหนักนิ้วไม่เท่ากัน เสียงกดปุ่มดังไม่เท่ากัน การตอบสนองก็ไวไม่เท่ากันอีก แต่จุดเด่นของ Black Switch ก็คือความหน่วงนิ้วที่ออกแบบมาได้กลมกล่อม ไม่เมื่อยแถมยังกดมันมือมันนิ้วและไวต่อการตอบสนองมาก (กดนิดเดียวก็ติดแล้ว) เหมาะสำหรับเล่นเกมหรือจะใช้พิมพ์งานก็เพลิน เสียงสัมผัสพอประมาณไม่ดังหนวกหูแกร็ก ๆ นุ่มทั้งมือนุ่มทั้งหูกดเพลินจนวางไม่ลง เอ้อ มีไฟ RGB 19 รูปแบบสำหรับชาวเกมสายแมงเม่าด้วยนะ ปกติผู้เขียนไม่ค่อยเปิดไฟเท่าไหร่แต่ยอมรับเลยว่าทั้งดีไซน์คีย์บอร์ดกับดีไซน์ไฟ RGB มันสวยหรูหราเข้ากันดีมาก (แค่จิ้ม Power คอมให้ไฟคีย์บอร์ดติดก็รู้สึกใจนุ่มฟูแล้วอะ)

มีข้อติเล็กน้อยคือ Engine Software ของคีย์บอร์ดสำหรับใช้ตั้งค่าปุ่ม Macro ต่าง ๆ ดันแสดงผลจีนเป็นภาษาเริ่มต้น โชคดีที่เราอยู่ในยุคก้าวหน้าที่สามารถใช้กูเกิ้ลถ่ายรูปแล้วแปลภาษาได้แบบ Real Time ไม่งั้นชาตินี้อาจหาปุ่มเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษไม่เจอแน่ ๆ

อนึ่ง คีย์บอร์ดรุ่นนี้ไม่มีคีย์ไทย ดังนั้นถ้าพิมพ์สัมผัสไม่เก่งอาจใช้งานลำบากหน่อยนะ (เชื่อว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่พิมพ์สัมผัสเก่งอยู่แล้วเนอะ!)

  • Brand: Machenike
  • Model: K7-B87W RGB Black Switch
  • จำนวนปุ่ม: 87 Keys
  • การเชื่อมต่อ: USB-C / Bluetooth 3.0
  • Battery: 2000 mAh
  • OS: Android/Window และ Mac/IOS
  • น้ำหนัก: 730g

Machenike M7 Wireless Mouse

จั่วหัวว่า Wireless Mouse แต่ถ้าจะให้นิยามตามตรงเรียกว่า Hybrid Mouse น่าจะถูกต้องกว่าเพราะ M7 มันคือเมาส์สะเทินน้ำสะเทินบก จะไร้สายก็ได้เสียบสายก็ดีมีแบตอึด ๆ ทดสอบเองใช้วันละราว 5 ชั่วโมง 10 วันติดแบตถึงจะเริ่มติด ๆ ดับ ๆ และอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าผู้เขียนค่อนข้างอคติว่าเมาส์ไร้สายน่าจะตอบสนองได้ไม่ดี เพราะเคยใช้ทำงานละเอียดอย่างแต่งกราฟิกหรือเล่นเกม FPS ที่ต้องเล็งเมาส์ยิงปืนแม่นยำจ๋าแล้วไม่ลื่นมือมาก ๆ (จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่หันมาซื้อเกมมิ่งเกียร์มีสายเมื่อ 6-7 ปีก่อน) แต่ M7 ตอบสนองได้ค่อนข้างประทับใจไม่ว่าจะไร้สายหรือเสียบสาย (USB-C) ความคิดไปเองว่าเมาส์ไร้สายไม่ดีจึงตกไปด้วยประการฉะนี้

เมาส์ปรับความไว (DPI) ได้ตั้งแต่ 100 – 16,000 บันทึกระดับไว้ปรับความเร็วได้ถึง 8 Stage จะช้าเป็นหอยทากหรือเร็วดุจปีศาจนักวิ่งเท้าไฟก็แล้วแต่ใจปรารถนา (DPI 16,000 นี่เลื่อนเมาส์ทีเคอร์เซอร์แทบจะหมุนรอบโลกเลยมั้งนั่น) ปรับไฟ RGB ได้ 8 โหมด ใช้สวิตซ์แบบ Omron กดแล้วให้สัมผัสแน่น ๆ รับนิ้วได้ดี รองรับการคลิกถึง 20 ล้านครั้ง มาพร้อม Engine Software ที่มีอังกฤษเป็นภาษาเริ่มต้นรองรับการปรับ Macro และตั้งค่าทั้ง 7 ปุ่มบนเมาส์ได้ดังใจ เมาส์ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์จึงจับได้สบายมือ

  • Brand: Machenike
  • Model: M720 Gaming Mouse
  • จำนวนปุ่ม: 7 Keys
  • การเชื่อมต่อ: USB-C / 2.4G Wireless
  • Battery: 1000 mAh
  • DPI: 100 – 16,000
  • น้ำหนัก: 125g

ปัจจุบันผู้เขียนใช้เมาส์และคีย์บอร์ดสองตัวนี้เป็น Gaming Gear หลักมาแล้ว 1 เดือนเต็ม (อันนี้ต้องขอโทษแบรนด์ด้วยที่ดองเครื่องไว้ทดสอบนานมาก ๆ เพราะติดช่วงปรับปรุงเว็บพอดี) ค่อนข้างประทับใจมากโดยเฉพาะคีย์บอร์ดที่ดูท่านิ้วจะชอบกดมันจริง ๆ ส่วนเมาส์ถือว่าทำมาตรฐานได้ดี จากเดิมที่ผู้เขียนใช้ Razer DeathAdder V2 เป็นตัวหลักมาตลอด พอเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ก็ไม่รู้สึกระคายมือแต่อย่างใด ตอบสนองแม่นยำ ถนัดมือ ให้ความพึงพอใจได้ไม่ต่างกันมากนัก M7 จะใช้แรงกดคลิกมากกว่าตัว DeathAdder V2 อยู่เล็กน้อย ส่วน DeathAdder V2 นั้นมีน้ำหนักเมาส์เบากว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ข้อดีหลัก ๆ ของ M7 เลยก็คือเป็นเมาส์ Hybrid ที่จะเสียบสายหรือไร้สายก็สะดวกเหมาะประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์มากกว่า

Machenike Thailand Official Store: Lazada
Facebook Page: Machenike&Machcreator TH
Machenike Engine Software: machenike.com

urguy
urguy
เขียนคอนเทนต์มาตั้งแต่ปี 2015 ปัจจุบันเป็นฟูลไทม์สคริปต์ & คอนเทนต์ไรเตอร์ช่องไอทีที่แวะมาเขียนบทความเกมเป็นครั้งคราว

Latest

วิธีติดตั้ง Silent Hill 2 Remake Mod ภาษาไทย

ม็อดไทย Silent Hill 2 Remake โดยเพจ ไม่พร้อมไม่แจก พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วโดยมีวิธีการดังนี้วิธีการดาวน์โหลดสมัครบัญชี nexusmods.com...

วิธีลงม็อดพากย์ไทย Stardew Valley

ดาวน์โหลดไฟล์วิธีติดตั้งม็อดพากย์ไทย Stardew ValleyRockeroid ร่วมมือกับ BlackChick Community ปล่อยม็อดเสียงไทย Stardew Valley...

วิธีผ่อนเกม PlayStation ด้วย SPayLater

วิธีผ่อนเกม PlayStation ด้วย SPayLaterผูกบัญชี PSN กับ ShopeePayผ่อนเกม PlayStation ด้วย...

ประวัติ PlayStation เครื่องเกมที่เกิดมาล้างแค้น Nintendo

30 ปีที่แล้ว Nintendo ได้สร้างคู่แข่งตัวฉกาจด้วยการหักหลัง Sony ที่ตั้งใจจะสร้างเครื่อง Nintendo PlayStation ด้วยกัน