เมื่อ 22 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อฉลองในโอกาสที่เกม NieR Replicant ver.122474487139 ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Square Enix จึงตีแผ่ข้อความฮา ๆ จากคู่หูผู้สร้างซีรีส์เกม NieR เกี่ยวกับผลงานล่าสุดอย่าง NieR Replicant ver.1.22474487139 ให้แฟน ๆ ได้ลองอ่านกัน
ข้อความจากคุณ Yoko Taro (Creative Director)
สวัสดีทุกคนนน ผม Yoko Taro ผู้ดำรงตำแหน่ง Creative Director ของเกม NieR Replicant ver.1.22474487139 เอง
เกมนี้มันคือ “เวอร์ชั่นอัปเกรด” ของเกมที่วางจำหน่ายไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนในชื่อ NIER ใช่แล้ว! มันไม่ใช่การ Remake หรือ Remaster อะไรทั้งนั้น มันคือเวอร์ชั่นอัปเกรด ต่างหากล่ะ
แรกเริ่มเลย ผมตั้งใจว่าจะ Remaster เกมนี้เฉย ๆ แบบ… เพิ่มความละเอียดของภาพอะไรเทือกนั้นอะ แต่พอเริ่มทำขึ้นมาแล้วผมก็เริ่มบ่นว่าอยากปรับโมเดลพวกนั้นหน่อย หรือแก้ฉากหลังกันหน่อย แล้วก็อื่น ๆ มันจึงกลายเป็นการปรับแก้องค์ประกอบนับไม่ถ้วนเลย
ก่อนหน้านี้ Square Enix ก็เพิ่งเข็น Final Fantasy VII Remake ออกมาใช่ไหมล่ะ ผมเห็นแบบนั้นก็อดคิดไม่ได้ว่า ฉิบหายแน่ถ้าเกมนี้จะถูกเอาไปเปรียบเทียบกับเกมที่ทำรายได้ถล่มทลายแบบนั้น ผมก็เลยตัดสินใจเรียกเกมภาคนี้ว่า Replicant ver.1.22 บลา ๆๆ แทน ก็ “เวอร์ชั่นอัปเกรด” นั่นแหละ
เพิ่มนิดนึง ไอ้ชุดตัวเลขยาวเป็นหางว่าวหลังชื่อภาคนั่นเป็นอะไรที่ผมมั่วขึ้นมาเอง เพราะงั้นถ้าผมเป็นพวกคุณ ผมคงไม่อยากมาคิดวิเคราะห์จริงจังว่ามันสื่อถึงอะไรหรอกนะ
แล้วขอพูดอีกอย่าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เวลาผมอยู่กับทีม Square Enix ก็มักจะมีพวกคนที่แผ่ออร่าความกระตือรือร้นเจิดจ้าแสบลูกตามาพูดกับผมว่า “ดูสิ! NieR: Automata (ผลงานก่อนหน้านี้ของผม) ประสบความสำเร็จมากเลยนะ แบบนี้ NieR Replicant ต้องขายดีเหมือนกันแน่ ๆ” ผมอยากจะขอใช้โอกาสนี้บอกทีมงาน Square Enix ให้ลองเบิกตาดูความเป็นจริงบ้างงง มันมีส่วนที่เหมือนกันแค่ชื่อเองนะโว้ย เนื้อหาของทั้งสองเกมมันไม่เหมือนกันสักนิด เพราะงั้นมันภาคนี้คงขายไม่ดีขนาดนั้นหรอก จริงไหมล่ะพวกเอ๋ย?
ลองคิดดูดี ๆ สิ ตูเป็นคนทำเองกับมือ! ยอดขาย Automata มันแค่ฟลุก ผลงานอันอื่นก่อนหน้านี้ของผมก็ไม่ได้มียอดขายน่าจดจำอะไรสักหน่อย ถ้าพวกคุณเอ็งจะผลิตแผ่นภาคนี้ออกมาจำนวนมากแล้วเอาไปสต็อกไว้ในคลัง สิ่งที่พวกเราจะได้ก็มีแค่การเอามันมาเล่นแทนจานร่อนแค่นั้นแหละ ถึงการทำแบบนั้นจะฟังดูน่าสนุกดีเหมือนกันก็เหอะ”
ณ ตอนนี้ มีฝ่ายการตลาดจาก Square Enix มาด้อม ๆ มอง ๆ ข้างหลังผมด้วยสายตาที่พูดว่า “ไอ้เวร Yoko โปรโมตเกมให้มันดี ๆ สักครั้งจะตายรึไง” …เฮอะ ขนาดนี้แล้วก็แก้อะไรไม่ได้แล้วนี่ จริงไหมล่ะ? วันนี้เราก็ปลงแล้วพอแค่นี้กันดีกว่า กว่าจะเข้าใจเกมนี้ก็ต้องใช้เวลาเล่นมันตั้งหลายรอบนี่หว่า พวก Reviewer ทั้งหลายคงกดดันเพราะต้องรีบปั่นคอนเทนต์ออกมาอีก เพราะงั้นพวกเราทุกคนควรหันมาทำสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ซึ่งก็คือกลับบ้านไว ๆ แล้วทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ไง อื้มนั่นแหละ ผมคิดว่าแบบนี้จะมีผลลัพธ์ที่ดีกับโลกนี้ขึ้นหน่อย”
ข้อความจาก คุณ Yosuke Saito (Producer)
สวัสดีครับทุกคน สำหรับบางคนผมคงต้องกล่าวว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” และบางส่วนก็คงเป็น “ยินดีที่รู้จักครับ” ผมชื่อ Yosuke Saito และผมเป็น Producer ของ NieR Replicant ver.1.22474487139…
ต้องขอขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน ณ ที่นี้ด้วย NieR:Automata นั้นประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล เกมภาคล่าสุดนี้จึงสร้างขึ้นมาภายใต้ความกดดันที่ใหญ่ยิ่งจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ พวกเราเรียกภาคนี้ว่า “เวอร์ชั่นอัปเกรด” แม้ว่าคุณ Yoko จะพูดไว้ว่ายังไงก็ตามแต่ ส่วนตัวผมคิดว่าคุณภาพเกมมันออกมาดีกว่าที่จะไปตั้งชื่อแบบนั้น อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จครั้งมโหฬารของ NieR:Automata มันก็ปาฏิหาริย์ดี ๆ นี่เอง เพราะงั้นผมก็ไม่คิดว่าผลงานครั้งนี้จะทำยอดขายได้ขนาดนั้นหรอก แต่ว่าถ้าเราทำยอดไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ทั้งคุณ Yoko และผมคงจะถูกบังคับให้ขนเกมขึ้นรถตู้แล้วเร่ขายแผ่นรอบโลกเป็นแน่ อ่า… คุณ Okabe (ผู้ประพันธ์เพลงประกอบเกมซีรีส์นี้) ก็คงต้องนั่งไปด้วยเหมือนกัน
ตอนนี้พวกคุณก็รู้ถึงสถานการณ์ของเราแล้ว จากนี้ไปก็อยากให้ทุกคนช่วยกรุณาสนับสนุนซีรีส์ NieR ต่อไปด้วยนะครับ
ขอร้องล่ะครับ ผมไม่อยากเดินทางด้วยรถตู้นั่นเลย…
เรื่องน่ารู้ เกม NieR เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2010 โดยเป็นเรื่องราวของตัวละครเอกที่ชื่อว่า NieR และสมาชิกในครอบครัวที่ชื่อว่า Yonah เป็นที่น่าสนใจที่ Square Enix ทำเกม NieR ออกมาวางจำหน่ายในปีนั้นถึงสองเวอร์ชั่นเลย โดยเวอร์ชั่นที่ขายในญี่ปุ่นจะใช้ชื่อว่า NieR Replicant ซึ่งตัวละคร NieR ในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นเด็กหนุ่มหน้าคมสไตล์เกม JRPG ที่มี Yonah เป็นน้องสาว แต่เวอร์ชั่นที่ขายในโซนตะวันตกจะเป็นคุณพ่อหุ่นกล้ามล้ำบึกและมี Yonah ที่กลายเป็นลูกสาวแทน นอกเหนือจากที่กล่าวมาเนื้อเรื่องในเกมของทั้งสองเวอร์ชั่นแทบจะไม่มีความแตกต่างใด ๆ กันเลย เหตุผลที่มีสองเวอร์ชั่นก็เป็นเพราะว่า Square Enix ณ เวลานั้นเชื่อว่าตัวละครกล้ามล้ำ ๆ ดูแมน ๆ จะถูกใจเกมเมอร์ชาวตะวันตกมากกว่า