ปอมเปอี หนึ่งในโบราณสถานของโลกพึ่งมียามชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่เฝ้าระวังเพิ่มเติม ซึ่งยามเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหุ่นยนต์รูปร่างเหมือนสุนัขชื่อ Spot หนี่งในผลงานชูโรงของบริษัท Boston Dynamics นั่นเอง
เป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้วที่ทาง แล้วที่ทาง UNESCO ได้ออกมาเตือนว่าหนึ่งในมรดกโลกอันล้ำค่าอย่างโบราณสถานปอมเปอี ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศอิตาลี กำลังเสื่อมสภาพอย่างน่าเป็นห่วงทั้งจากกาลเวลาที่ผ่านไปและจากการถูกโจรลอบเข้าไปขโมยโบราณวัตถุอย่างต่อเนื่อง หากโบราณสถานที่มีอายุกว่า 2000 ปีและมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 2 ล้านคนต่อปีต้องสูญสลายไปก็คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อยเลย โชคยังดีที่รัฐบาลอิตาลีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาหนทางที่จะอนุรักษ์นครโบราณนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่กี่วันนี้เองทางเว็บไซต์และช่องยูทูบทางการของปอมเปอีก็ได้ออกมาเผยให้ชาวโลกได้เห็นว่าพวกเขาหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว โดยการใช้นวัตกรรมหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า Spot ในการตรวจตรารอบบริเวณโบราณสถานเพื่อคอยดูว่ามีจุดที่ผุพังและจำเป็นต้องซ่อมบำรุงที่ไหนบ้าง พร้อมกับจับตาดูไม่ให้โจรปล้นโบราณสถานเข้ามาขโมยวัตถุใด ๆ ออกไปจากปอมเปอีและสร้างความเสียหายให้กับสถานที่แห่งนี้ได้
Spot เป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตโดย Boston Dynamics บริษัทวิศวกรรมออกแบบหุ่นยนต์สัญชาติอเมริกันซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยนักวิจัยมากความสามารถจากสถาบัน MIT โดย Spot นั้นเป็นหุ่นยนต์ซีรีส์แรกที่ Boston Dynamics จัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ และมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายอาทิ ด้วยเซนเซอร์และกล้องคุณภาพสูงทำให้ Spot มีทัศนวิสัยในการมองเห็นแบบ 360 องศา เอาง่าย ๆ ก็คือน้องเห็นรอบตัวเลยครับ จะแอบอยู่ด้านหลังหรือข้าง ๆ ตรงไหนก็ไม่พ้นสายตาน้อง นอกจากนี้มันยังมีระบบในการทรงตัวที่ดีมาก สามารถเดินลุยผ่านพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนลูกรัง ดงหญ้า บันไดหรือฟุตพาท นอกจากนี้ยังสามารถแบกของหนักถึง 14 กิโลกรัมได้อีกด้วย ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้จึงทำให้ Spot สามารถลาดตระเวนได้อย่างคล่องแคล่วแถมด้วยยังเข้าถึงบริเวณแคบ ๆ ได้ดีกว่ามนุษย์เสียอีก โดยทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโบราณสถานจะบินโดรนเพื่อลาดตระเวนจากมุมสูงด้วยอีกแรง
เรื่องน่ารู้ ปอมเปอีคือเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในแคว้นคัมปาเนียประเทศอิตาลี ซึ่งเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมากในอดีตจนกระทั่งเกิดเหตุวินาศกรรมขึ้นในปี ค.ศ. 79 ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดครั้งใหญ่ โดยนักวิจัยบางส่วนคาดว่าการระเบิดในครั้งนั้นมีความรุนแรงยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกทิ้ง ณ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถึงแสนเท่า ส่งผลให้เมืองที่เคยสวยงามและเหล่าชาวเมืองที่หนีไม่ทันถูกเถ้าภูเขาฝังไปพร้อม ๆ กันในชั่วพริบตา
Source: pcgamer.com, independent.co.uk