หลังออกนโยบายมาสกัดไม่ให้เยาวชนเล่นเกมมากกว่า 3 ชม. ต่อสัปดาห์ รวมถึงมีมาตรการป้องกันการสวมรอยใช้บัญชีพ่อแม่ และไม่อนุมัติเกมใหม่ให้วางขายหลายเดือนจนบริษัทเกมจีนเจ๊งกันระนาว ที่สุดหน่วยงานรัฐจีนออกมาเผยว่าพวกเขาแก้ปัญหาเด็กติดเกมสำเร็จแล้ว!
ปีก่อนหน่วยงานกำกับดูแลด้านอุตสาหกรรมเกมในประเทศจีนออกกฎห้ามเยาวชนจีนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์เล่นเกมเกินสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง จากนั้นมีนาคมปีนี้ก็มีการปรับปรุงกฎใหม่ให้เหล่าบริษัทเกมทำตามเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเสพเนื้อหาที่มีผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันการสวมรอยเอาบัญชีเกมของผู้ใหญ่มาเล่น เช่น Tencent ที่ใส่ระบบจดจำใบหน้าเข้าไปในแอปมือถือ ป้องกันไม่ให้เยาวชนเล่นเกมนอกเวลาที่กำหนด (ถ้าใครไม่เปิดฟีเจอร์นี้ระบบจะถือว่าพวกเขาคือเยาวชนทั้งหมด) นอกจากนี้ยังมีการควบคุมวงการเกมแบบเข้ม ๆ อีกมาก เช่น ไม่อนุมัติให้ขายเกมใหม่ไปครึ่งปีจนบริษัทเกมปิดตัวไปนับหมื่น โดยรัฐบาลจีนมองว่าการติดเกมสร้างปัญหากับเด็ก ๆ เช่น ทำให้สายตาสั้น, สมาธิสั้น, นอนไม่หลับ และมีปัญหาด้านสุขภาพจิต
ที่สุด หน่วยงานกำกับดูแลก็เพิ่งออกมาประกาศชัยชนะว่า “จีนสามารถหยุดปัญหาเด็กติดเกมได้แล้ว” โดยเผยว่าตัวเลขเยาวชนที่เล่นเกมน้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 75% และระบบป้องกันการติดเกมก็มีผลบังคับครอบคลุมเยาวเกมเมอร์ถึง 90% ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ดี 65.54% ของเด็กที่เคยใช้เวลาไปกับการเล่นเกมหันไปติดแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง Douyin หรือ TikTok เวอร์ชันจีนแทน
อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยจีนยังบังคับใช้มาตรการกักโรคโควิด 19 อย่างเข้มงวด รวมถึงฤดูหนาวกำลังพัดโหมเข้ามา ทำให้หลายครอบครัวเลือกจะฝ่าฝืนกฎต่าง ๆ และนำบัญชีเกมของตนเองให้ลูก ๆ เล่นเพื่อผ่อนคลายสร้างความบันเทิงระหว่างผ่านช่วงเวลาดังกล่าว
Source: yahoo.com, scmp.com, nme.com